เช็กหน้าตัก 3 เสือรับเหมา "ช.การช่าง-ซิโน-ไทย-ITD" งานล้นมือ
วันที่ 06 กันยายน พ.ศ. 2553 ปีที่ 34 ฉบับที่ 4242 ประชาชาติธุรกิจ
ในปัจจุบัน กรุงเทพมหานคร มีรถไฟฟ้า รวมทั้งสิ้น 73.8 กิโลเมตรรถไฟฟ้า บีทีเอส 28.7 กมรถไฟฟ้ามหานคร 21 กมรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงค์ 28.6 กม
สรุปการก่อสร้างรถไฟฟ้าแยกเป็นสายได้ดังนี้คับ
- รถไฟฟ้ามหานคร สายสีน้ำเงิน (ส่วนขยาย) ช่วงบางซื่อ-ท่าพระ และช่วงหัวลำโพง-บางแค ระยะทาง 27 กิโลเมตร ลงนามสัญญาแล้ว คาดว่าผู้รับเหมาจะเข้าพื้นที่เร็วๆนี้ คาดว่าเปิดบริการได้ปี 2559
- รถไฟฟ้ามหานคร สายสีม่วง (บางบัวทอง-เตาปูน) รวมระยะทางทั้งสิ้น 23 กิโลเมตร กำลังก่อสร้าง คาดว่าเปิดบริการในปี 2557
- รถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดงอ่อน ตลิ่งชัน - บางซื่อ ระยะทาง 15 กิโลเมตร กำลังก่อสร้าง คาดว่า เปิดบริการได้ปี 2555
- รถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดงเข้ม ช่วง บางซื่อ-รังสิต-ธรรมศาสตร์ ตามแนวเส้นทางรถไฟสายเหนือ/ตะวันออกเฉียงเหนือ ระยะทาง 36.3 กิโลเมตร อยู่ในระหว่าง ประมูลงาน คาดว่าเริมก่อสร้างในต้นปี 2554 และเปิดบริการได้ในปี 2557รวมระยะทาง 101 กิโลเมตร
------------------------------------------
เมกะโปรเจ็กต์รถไฟฟ้าเวอร์ชั่นรัฐบาลมาร์ค ภายใต้การกำกับของ "พรรคภูมิใจไทย" เค้กก้อนใหญ่ถูกตัดแบ่งแจกจ่ายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว 2 สาย 2 สี คือ "ม่วง" จากบางซื่อ-บางใหญ่ และ "น้ำเงิน" หัวลำโพง-บางแค และบางซื่อ-ท่าพระ มูลค่าร่วม 8.8 หมื่นล้านบาท
ยังเหลือเค้กก้อนใหญ่ส่งท้ายปีอีก 1 สาย 1 สี รถไฟชานเมือง สายสีแดง "ช่วงบางซื่อ-รังสิต" มูลค่ากว่า 7 หมื่น ล้านบาท กำลังเปิดประมูลระหว่างวันที่ 1-2 ธันวาคมที่จะถึงนี้
สายม่วง-น้ำเงิน มาตามโผ
ผลประมูล 2 สายทั้ง "ม่วง-น้ำเงิน" ออกมาลงล็อกตามโผ บี๊กแบรนด์ "ช.การช่าง-ITD-ซิโน-ไทยฯ-ยูนิคฯ" กวาดเรียบ จากข้อได้เปรียบทั้งสถานะการเงินแข็งแกร่งและคอนเน็กชั่นที่แนบแน่น เช็กยอดผลประมูลรถไฟฟ้าแค่ 2 สาย ส่งผลให้งานในมือ (แบ็กล็อก) แต่ละค่ายทะลักล้นข้ามปี
นำโด่งโดย "บมจ.ช.การช่าง" ของ "เสี่ยปลิว ตรีวิศวเวทย์" ทุบสถิติทำยอดมากที่สุด วงเงินรวม 30,051 ล้านบาท มาจากสายสีม่วง งานสัญญาที่ 1 โครงสร้างยกระดับจากเตาปูน-สะพานพระนั่งเกล้า วงเงิน 14,292 ล้านบาท และสีน้ำเงิน สัญญาที่ 2 งานอุโมงค์ใต้ดิน (สนามไชย-ท่าพระ) และสัญญาที่ 5 (วางระบบราง) วงเงินรวม 15,759 ล้านบาท
ตามมาติด ๆ ได้แก่ "บมจ.ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น" ของตระกูลชาญวีรกูล ได้ยอดรวม 26,480 ล้านบาท เป็นของสีม่วง งานสัญญาที่ 2 โครงสร้างยกระดับ (สะพานพระนั่งเกล้า-บางไผ่) วงเงิน 13,100 ล้านบาท และสีน้ำเงิน งานสัญญาที่ 4 (ทางยกระดับท่าพระ-หลักสอง) วงเงิน 13,380 ล้านบาท
ขณะที่ "บมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวลอปเมนต์" ของเสี่ยเปรมชัย กรรณสูต รั้งอันดับที่ 3 แม้ว่าสายสีม่วงจะตกขบวนเพราะประมาทไปนิด ไม่คิดจะมี "ยูนิคฯ" เข้ามาเสียบแทรกกลางคัน แต่ในที่สุดสายสีน้ำเงินไม่พลิกโผ
ในตอนแรกแม้จะออกอาการผิดคิวหลังถูกคลื่นแทรกจาก "การเมือง" เล่นเกมใต้ดิน จัดฉากจนคิวรวนไปหมด โดยส่ง "ช.การช่าง" มาป่วนสัญญาที่ 1 งานอุโมงค์ (หัวลำโพง-สนามไชย) จากเดิม "อิตาเลียนไทย" คาดว่าจะได้งาน แต่คำตอบสุดท้ายกลับมีชื่อ "ช.การช่าง" ซิวงานทั้ง 2 สัญญา
ว่ากันว่า เกิดเหตุขัดข้องทางเทคนิค เล็ก ๆ น้อย ๆ แต่เมื่อเคลียร์ปัญหาคาใจสำเร็จ ผ่านไปไม่ถึงเดือน ชื่อ "อิตาเลียนไทย" ก็ผงาดกลับมายืนที่เดิม ได้งานสัญญา 1 ตามโผเดิม วงเงิน 11,490 ล้านบาท โดยลดจากราคาเดิม 11,550 ล้านบาท ไปประมาณ 60 ล้านบาท
ขณะที่การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เจ้าของโปรเจ็กต์ บอกว่า หลังเช็กรายการเสนอราคาแล้ว "อิตาเลียนไทย" บวกวงเงินเกินมา 60 ล้านบาท
"เป็นเกมของฝ่ายการเมือง มีเหตุผิดใจกันเล็กน้อยงานระดับเล็ก ๆ แต่พอเคลียร์กันได้ทุกอย่างกลับมาเหมือนเดิม เหมือนที่คุยกันไว้แต่แรก" แหล่งข่าวจากวงการรับเหมาก่อสร้าง กล่าวกับ "ประชาชาติธุรกิจ"
นิวเอ็นทรี "ยูนิคฯ-Sinohydro-PAR"
อันดับที่ 4 นิวเอ็นทรี "บมจ.ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น" ของ "ประสงค์ สุวิวัฒน์ธนชัย" หลังได้งานจากการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) สร้างรถไฟชานเมืองสายสีแดง (บางซื่อ-ตลิ่งชัน) 15 กิโลเมตร ค่าก่อสร้าง 8,748 ล้านบาท ถือวˆาเริ่มขยับเข้ามารับงานที่ รฟม.
จากที่ไม่มีชื่อติดชาร์ต แต่เพราะได้กุนซือดีแนะแนวทางให้ผนึกกับรับเหมาจีน ชื่อชั้นของ "Sinohydro" จึงแซงคิวบิ๊ก แบรนด์สำเร็จ ได้งานสัญญาที่ 3 (งานโครงสร้างยกระดับเตาปูน-ท่าพระ) สายสีน้ำเงินสมใจ มูลค่า 11,320 ล้านบาท จนได้รับฉายา "รับเหมาส้มหล่น" รายล่าสุด
รั้งท้ายที่นิวเอ็นทรีเช่นกัน "กิจการ ร่วมค้า PAR" (บมจ.เพาเวอร์ไลน์-บมจ.แอสคอน-บจ.รวมนครก่อสร้าง) วงเงิน 5,025 ล้านบาท สัญญาที่ 3 สายสีม่วง งานอู่ซ่อมบำรุงและอาคารจอดแล้วจร ว่ากันว่ากว่าจะได้งานนี้ต้องกัดฟันลดราคาจนแทบไม่เหลือกำไรติดบัญชี
สายสีแดง รับเหมาไทย-เทศฝุ่นตลบ
ส่วนสายสีแดง "บางซื่อ-รังสิต" ด้วยเม็ดเงินสูง 7 หมื่นกว่าล้านบาท ทำให้กลายเป็นเค้กที่เป็นที่จับจ้องทั้งผู้รับเหมาไทย-เทศ ขณะที่งานถูกตัดแบ่งแค่ 3 สัญญา คือ 1) งานโยธาและสถานีกลางบางซื่อ 26,554 ล้านบาท 2) งานโยธาจากสถานีบางซื่อ-รังสิต 18,861 ล้านบาท และ 3) ระบบไฟฟ้าและเครื่องกล รวมตู้รถไฟฟ้า ทั้งบางซื่อ-รังสิต และบางซื่อ-ตลิ่งชัน 26,272 ล้านบาท
โดย ร.ฟ.ท.ประเดิมก่อน 2 สัญญาแรก งานโยธามูลค่ากว่า 4.5 หมื่นล้านบาท ปิดขายเอกสารประกวดราคาไปเมื่อวันที่ 17 สิงหาคมที่ผ่านมา มีผู้รับเหมาสนใจซื้อทั้งหมด 11 ราย ล้วนเป็นหน้าเก่าขาประจำทั้งสิ้นประกอบด้วย 1) บมจ.ซิโน-ไทยฯ 2) อิตาเลียนไทย 3) ช.การช่าง 4) มิตซุย (ประเทศไทย) จากประเทศญี่ปุ่น 5) Sinohydro Corporation จากจีน 6) ยูนิค เอ็นจิเนียริ่งฯ 7) เนาวรัตน์พัฒนาการ
โอบายาชิ จากญี่ปุ่น 9) วิจิตรภัณฑ์ก่อสร้าง 10) เอ.เอส.แอสโซซิเอท เอ็นจิเนียริ่ง (1964) และ 11) ไชน่า ฮาร์เบอร์ เอ็นจิเนียริ่ง
เมื่อไล่ดูรายชื่อ วงในรับเหมาก่อสร้างฟันธงล่วงหน้า มีขึ้นแท่นรอเข้าเส้นชัย สบาย ๆ 3 ราย "ช.การช่าง-อิตาเลียนไทย-ซิโน-ไทยฯ" ส่วนที่เหลือ "เนาวรัตน์ฯ- ยูนิคฯ" เป็นเพียงผู้ร่วมทุน (จอยต์เวนเจอร์) เพราะติดกฎเหล็กรายได้รวมไม่ถึงกำหนด
ด้านรับเหมาต่างชาติ "โอบายาชิ- มิตซุย-Sinohydro" ต้องหารับเหมาท้องถิ่นเป็นพาร์ตเนอร์ เพราะไม่ง่ายที่จะขนคนงานมาก่อสร้างที่เมืองไทย
แต่ด้วยเค้กถูกจำกัดไว้แค่ 3 ก้อน ว่ากันว่าอาจจะได้เห็นภาพรับเหมา "บิ๊กแบรนด์" จูบปากกันเอง เพราะวงการนี้ "ไม่มีมิตรแท้และศัตรูถาวร"
ถ้าเป็นไปตามพยากรณ์ นั่นหมายความว่า "ช.การช่าง-อิตาเลียนไทย-เนาวรัตน์ฯ" จะผนึกกำลังกันคว้างานสัญญาที่ 1 "ซิโน-ไทยฯ-ยูนิคฯ" จับมือกันได้งานสัญญาที่ 2 ขณะที่สัญญาที่ 3 (ร.ฟ.ท.กำลังจะเปิดขายแบบเร็ว ๆ นี้) จะเป็นภาพของการเปิดทางให้รับเหมาต่างชาติ เพราะงานนี้ต้องอาศัยเทคนิคล้วน ๆ